เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2568 พรรคประชาธิปัตย์จัดประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารชุดใหม่ โดยที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมานั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคอีกครั้ง

ภายหลังได้รับเลือก นายอภิสิทธิ์ กล่าวขอบคุณสมาชิกทุกคนที่ไว้วางใจ พร้อมกล่าวยกย่อง นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรค แม้จะไม่ได้มาร่วมประชุม แต่ยืนยันว่า “แม้คิดต่าง แต่ไม่เคยตั้งคำถามถึงความทุ่มเท”

เขาเปิดใจถึงช่วงเวลาที่เคยลาออกจากพรรคว่า

“ก่อนจะลาออก ผมบอกแล้วว่าไม่มีพรรคอื่น กรีดเลือดออกมาก็เป็นสีฟ้า ผมจะเอาอุดมการณ์ประชาธิปัตย์รับใช้พี่น้องและประเทศชาติต่อไป”

พร้อมระบุว่า การกลับมาครั้งนี้ไม่มีทางได้กำไร

“อย่างมากสุดก็เสมอตัว ขาดทุนไม่มากก็น้อย แต่ผมต้องกลับมา เพราะชีวิตผมมาถึงตรงนี้ได้เพราะพรรคประชาธิปัตย์ ผมเป็นหนี้ทั้งพรรคและแผ่นดินนี้”

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงวิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองไทยในปัจจุบันว่า

“เศรษฐกิจติดหล่มมาเกือบ 10 ปี สังคมเหลื่อมล้ำ ความยุติธรรมหดหาย เราปล่อยให้การเมืองฉุดประเทศไม่ได้อีกต่อไป”

เขายังย้ำว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ตกอยู่ในวังวนของความขัดแย้ง

“เราจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่นำเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามาในความขัดแย้ง เพราะสถาบันต้องอยู่เหนือการเมือง”

ดึงคนรุ่นใหม่–ยืนหยัดอุดมการณ์เดิม

นายอภิสิทธิ์เผยว่า พรรคได้เปิดทางให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานมากขึ้น โดยย้ำว่า “ประเทศไทยต้องการเครื่องจักรที่ทำให้ประเทศโตได้จริง” ไม่ใช่เพียงนโยบายหาเสียงที่หวังผลระยะสั้น

เขายืนยันว่า ประชาธิปัตย์ยังคงยืนบนอุดมการณ์เดิมตั้งแต่ปี 2489

“เราไม่ใช่พรรคอนุรักษ์นิยม หรือประชาธิปไตยแบบใดแบบหนึ่ง เราคือต้นตำรับของพรรคเสรีประชาธิปไตยในไทย”

ชูสัญลักษณ์ “พระแม่ธรณี” – แรงบันดาลใจจากเอไอ

ในช่วงหนึ่งของการปราศรัย นายอภิสิทธิ์ได้พูดถึง “งานอดิเรก” ที่ชอบพูดคุยกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเล่าว่าเคยให้เอไีออกแบบ “สัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์และความอุดมสมบูรณ์” ก่อนจะสรุปว่า

“ไม่มีอะไรสมบูรณ์เท่าพระแม่ธรณี เพราะพระแม่ธรณีคือพยานแห่งสัจจะและความซื่อสัตย์”

เขาใช้เรื่องนี้เปรียบกับพรรคประชาธิปัตย์ว่า

“ใครจะมาทุบประชาธิปัตย์เหมือนทุบแก้วที่แตก แต่แก้วที่แตกจะยิ่งคมขึ้น ผมจะใช้ความคมนั้นตัดวงจรอุบาทว์ของการซื้อเสียงและคอร์รัปชัน”

ฝากถึงประชาชน

นายอภิสิทธิ์ปิดท้ายด้วยการเชิญชวนประชาชนที่เบื่อหน่ายการเมืองแบบเดิม

“มาร่วมกับเราเถอะ เป้าหมายของประชาธิปัตย์ไม่ใช่แค่การอยู่รอด แต่ต้องทำให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้า เพื่อคนไทยทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”